ผู้ป่วยแต่ละคนจะได้รับผลกระทบจากสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิดและมีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ แตกต่างกันไป
บางครั้งสารก่อภูมิแพ้หากมีปริมาณไม่มากพอก็จะไม่สามารถทำให้เกิดอาการได้ แต่อย่างไรก็ตามการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน หรือปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้ จะทำให้ปริมาณ IgE ในเลือดสูงขึ้นจนมีปริมาณมากพอที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้เช่น คันตา น้ำมูกไหล
ดังนั้นการระบุหาสาเหตุการแพ้สามารถทำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ถึงระดับของ Symptom threshold (ระดับที่เริ่มมีอาการภูมิแพ้)
หลายคนอาจจะสงสัย ว่า IgE คืออะไร?
IgE คือแอนติบอดี้ชนิดหนึ่ง โดยแอนติบอดี้นั้นจะมีทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกัน ได้แต่
- IgG
- IgM
- IgA
- IgD
- IgE
โดยแต่ละชนิดนั้น จะมีหน้าที่และการกระตุ้นต่างกันออกไป แต่ว่า IgE นั้นจะถูกกระตุ้นเมื่อเราได้รับสารก่อภูมิแพ้ หากสรุปง่ายๆ ก็ ถ้าได้รับสารก่อภูมิแพ้มาก IgE ก็มาก ได้รับน้อย IgE ก็น้อย
เช่น สมมติว่ามีคนรู้จักแพ้ฝุ่น ปกติฝุ่นเนี่ย ก็อาจจะมีอยู่ในอากาศ แต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้เกิดอาการแพ้ เพราะฝุ่นน้อย IgE ก็น้อย แต่พอเข้าห้องเก็บของปุ๊ป จามปั๊ป ก็เพราะได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปมาก IgE ก็มากพอ จึงทำให้เกิดอาการจาม
สัมผัสสารก่อภูมิแพ้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกันสามารถทำให้เกิดอาการได้
คนส่วนมากถึง 80% ที่เป็นโรคภูมิแพ้ สามารถแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ในหลายๆสิ่ง1 และในบางครั้งอาการของโรคภูมิแพ้จะเกิดขึ้นหากคนพวกนี้สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ 2 อย่างหรือมากกว่าขึ้นไปในขณะเดียวกัน
ลดการสัมผัสต่อสารก่อภูมิแพ้สามารถช่วยลดอาการของโรคได้เป็นอย่างดี
